การตัดบัญชีวัตถุดิบ กรณีไม่มีสูตรการผลิต และกรณีใบขนสินค้าไม่ระบุสิทธิ

Q: บริษัทมีคำถาม ดังนี้

1.กรณีบริษัทมีชื่อและโมเดลสินค้าส่งออก ไม่ตรงกับสูตรการผลิตที่ได้รับอนุมัติจาก BOI จะต้องทำอย่างไร เนื่องจากบริษัทจะดำเนินการยื่นขยายเวลา และได้พบว่ามีใบขนสินค้าคงค้าง

2.ใบขนสินค้าที่ไม่ระบุสิทธิ์หมายความว่าอย่างไร และบริษัทต้องดำเนินการอย่างไร

3.ถ้าบริษัทส่งออกวัตถุดิบที่นำเข้ามาแล้วแต่ส่งกลับออกไป โดยที่ไม่ได้ขออนุญาตบีโอไอ บริษัทจะทำอย่างไรกับใบขนสินค้าฉบับน้ัน

4.บริษัทมีสินค้าที่ส่งออกไปแล้ว และได้ขออนุญาตถูกต้อง บริษัทจะต้องดำเนินการตัดบัญชีวัตถุดิบอย่างไร

A: ตอบคำถามดังนี้

1.กรณีบริษัทมีชื่อและโมเดลสินค้าส่งออก ไม่ตรงกับสูตรการผลิตที่ได้รับอนุมัติจาก BOI จะต้องทำอย่างไร
ตอบ: บริษัทจะต้องยื่นขออนุมัติสูตรการผลิต ที่มีชื่อสินค้าและโมเดลให้ตรงกับใบขนสินค้าขาออก จึงจะตัดบัญชีวัตถุดิบได้
กรณีของบริษัท ใบขนสินค้าดังกล่าวมีอายุเกิน 1 ปี ซึ่งต้องตัดบัญชีวัตถุดิบให้เสร็จ หรือสละสิทธิตัดบัญชี จึงจะขอขอขยายระยะเวลานำเข้าได้

ดังนั้น บริษัทจึงต้องตัดสินใจว่า

1) จะสละสิทธิตัดบัญชีใบขนสินค้าฉบับนั้น และชำระภาษีวัตถุดิบที่เกี่ยวข้องในส่วนนั้น (ซึ่งไม่สามารถพิสูจน์การส่งออก เนื่องจากสละสิทธิตัดบัญชี) หรือ

2) จะไม่สละสิทธิ โดยยื่นขออนุมัติสูตรการผลิตเพิ่มเติม และตัดบัญชีวัตถุดิบใบขนสินค้าฉบับนั้นให้เสร็จสิ้น แล้วจึงยื่นขอขยายเวลานำเข้า แต่ในช่วงที่สิทธิขาด หากจะนำเข้าวัตถุดิบเข้ามา จะต้องชำระภาษีสงวนสิทธิ หรือขอใช้ธนาคารค้ำประกัน

หากเลือกวิธีที่ 2 จะต้องดำเนินการขยายเวลาให้เสร็จสิ้นภายใน 6 เดือน มิฉะนั้น สิทธิจะขาดสมบูรณ์ และวัตถุดิบที่ชำระภาษีสงวนสิทธิหรือใช้ธนาคารค้ำประกัน ในช่วงที่สิทธิขาด จะไม่สามารถใช้สิทธิยกเว้นภาษีได้

2) ใบขนสินค้าที่ไม่ระบุสิทธิ์หมายความว่าอย่างไร และบริษัทต้องดำเนินการอย่างไร
ตอบ: การจะใช้สิทธิตัดบัญชีใบขนสินค้าขาออก บริษัทจะต้องระบุสิทธิในใบขนสินค้าว่าใช้สิทธิ BOI หากบริษัทไม่ได้ระบุสิทธิดังกล่าว จะนำมาตัดบัญชีวัตถุดิบกับ BOI ไม่ได้

วิธีแก้ไข คือ ต้องติดต่อกรมศุลกากร เพื่อขอแก้ไขใบขนสินค้า เป็นใบขนใช้สิทธิ BOI และเมื่อข้อมูลใบขนสินค้าแก้ไข ขึ้นในระบบแล้ว จึงจะสามารถนำมาตัดบัญชีวัตถุดิบได้

(เพิ่มเติม) หากบริษัทเป็นกิจการเพื่อส่งออกเป็นส่วนใหญ่ และไม่ได้ใช้สิทธิทางอื่น อาจแจ้งให้บริษัทชิปปิ้ง ระบุใช้สิทธิ BOI ในใบขนสินค้าขาออกทั้งหมด เพื่อป้องกันปัญหานี้

เพิ่มเติมคำตอบ : แต่หากบริษัทตรวจสอบแล้วว่า ใบขนสินค้าขาออกที่ไม่ได้ระบุสิทธิ BOI เป็นการส่งออกสินค้าที่ไม่ได้ผลิตจากวัตถุดิบที่นำเข้าโดยใช้สิทธิ BOI หรือไม่ได้ซื้อจาก vendor ในประเทศที่นำเข้าวัตถุดิบต้นน้ำโดยใช้สิทธิ BOI ก็ไม่ต้องสนใจใบขนไม่ระบุสิทธิฉบับนั้นๆ เลย

3) ถ้าบริษัทส่งออกวัตถุดิบที่นำเข้ามาแล้วแต่ส่งกลับออกไป โดยที่ไม่ได้ขออนุญาตบีโอไอ บริษัทจะทำอย่างไรกับใบขนสินค้าฉบับน้ัน
ตอบ: การขอส่งวัตถุดิบออกไปต่างประเทศ จะต้องยื่นขออนุมัติก่อน จากนั้น นำเลขหนังสืออนุมัติไปบันทึกในใบขนสินค้าขาออก แล้วนำใบขนสินค้ามายื่นปรับยอดวัตถุดิบ

หากบริษัทส่งออกวัตถุดิบออกไปโดยไม่ได้รับอนุมัติ จะไม่สามารถนำมาปรับยอดวัตถุดิบได้ จึงจะมียอดคงค้างในบัญชีวัตถุดิบ และจะมีภาระภาษีในส่วนที่เป็นยอดคงค้าง

4) บริษัทมีสินค้าที่ส่งออกไปแล้ว และได้ขออนุญาตถูกต้อง บริษัทจะต้องดำเนินการตัดบัญชีวัตถุดิบอย่างไร
ตอบ: หากเป็นสินค้าตามที่ระบุในบัตรส่งเสริมการลงทุน ให้ยื่นขออนุมัติสูตรการผลิตของสินค้าที่ส่งออกนั้นๆ จากนั้น ยื่นตัดบัญชีวัตถุดิบตามใบขนแต่ละฉบับ

ทั้งนี้ เนื่องจากคำถามบางข้อ เป็นคำถามพื้นฐานที่จำเป็นต้องมีความเข้าใจ เพื่อให้ดำเนินการได้ถูกต้องตามเงื่อนไขในการใช้สิทธิประโยชน์
หากผิดพลาด อาจเกิดผลกระทบด้านภาระภาษีต่อบริษัท ดังน้ัน บริษัทจึงควรเข้าอบรมแบบตัวต่อตัว หรือ One on One Training (ดูรายละเอียดได้ที่ https://icis.ic.or.th/i-regist/index.php?r=site/course) กับสมาคม IC ด้วย จะเป็นวิธีที่ทำให้เข้าใจความรู้ที่จำเป็นได้ทั้งหมด
..............................