การตัดบัญชีวัตถุดิบในระบบ RMTS Online กรณีส่งออกวัตถุดิบไปต่างประเทศ

June 08,2022

การตัดบัญชีวัตถุดิบในระบบ RMTS Online กรณีส่งออกวัตถุดิบไปต่างประเทศ

 เรื่องของการเตรียมความพร้อมสำหรับการขอตัดบัญชีวัตถุดิบกรณีส่งออกไปต่างประเทศด้วยระบบ RMTS Online ทั้งเรื่องของการจัดทำใบขนสินค้าขาออก และเงื่อนไขการตัดบัญชีวัตถุดิบ แต่ในระหว่างที่ระบบ RMTS Online ยังพัฒนาไม่แล้วเสร็จ เรายังต้องตัดบัญชีวัตถุดิบกรณีส่งออกไปต่างประเทศเป็นแบบ Manual ไปก่อน ซึ่งที่ผ่านมาหลายบริษัทได้ดำเนินการไปแล้ว ดังนั้นจึงจะขอนำเสนอเพื่อทบทวนในเรื่องของเอกสารประกอบการพิจารณาขอปรับยอด และเรียนรู้วิธีการคีย์ข้อมูลกัน
เอกสารประกอบการพิจารณา : การขอปรับยอดส่งคืนวัตถุดิบไปต่างประเทศ
1. หนังสือบริษัท เรื่องขอยื่นเอกสารฐานข้อมูล RMTS-2011 ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ที่เวปไซต์ของสมาคม
www.ic.or.th ที่เมนูดาวน์โหลดแบบฟอร์มงานฐานข้อมูล >> แบบฟอร์มจดหมายขอยื่นงานฐานข้อมูล จากนั้นกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน และต้องคลิกเลือกช่อง “ปรับยอดส่งคืนวัตถุดิบไปต่างประเทศ” ในแบบฟอร์ม
2. สำเนาเลขที่หนังสืออนุมัติให้ส่งคืนพร้อมรายละเอียดของวัตถุดิบที่ส่งคืน ซึ่งในส่วนนี้ให้บริษัททำการคัดลอกจากหน้าระบบ IC Online System ที่เมนู ตรวจสอบคำร้องขอส่งออกวัตถุดิบ ตามตัวอย่าง

3. ใบขนสินค้าขาออกที่ส่งออกวัตถุดิบตามเลขหนังสืออนุมัติให้ส่งคืน
วิธีการคีย์ข้อมูล : การปรับยอดส่งคืนวัตถุดิบไปต่างประเทศ
การคีย์ข้อมูลเพื่อขอปรับยอดส่งคืนวัตถุดิบไปต่างประเทศ ยังคงคีย์ข้อมูลในไฟล์ ADJ เหมือนเดิมแต่สิ่งที่ต้องให้เพิ่มเติม คือ ระบุเลขที่หนังสืออนุมัติและเลขที่ใบขนสินค้าขาออก โดยให้เพิ่มในช่อง DESC หรือที่ระบุสาเหตุของการปรับยอด ดังตัวอย่าง

เมื่อเตรียมเอกสารและคีย์ข้อมูลเรียบร้อยแล้ว บริษัทสามารถนำมายื่นที่สมาคมเพื่อทำการปรับยอดวัตถุดิบต่อไปได้เลย
นอกจากนั้น ยังมีอีกหนึ่งข้อมูลสำคัญที่ขอนำมาเล่าสู่กันฟัง คือเรื่องการติดตามความเคลื่อนไหวของโครงการในขณะที่ยังมีระยะเวลานำเข้าวัตถุดิบ และเมื่อสิ้นสุดระยะเวลานำเข้าวัตถุดิบแล้ว ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดปัญหากรณีสิ้นสุดระยะเวลานำเข้าวัตถุดิบเกิน 2 ปีและมีวัตถุดิบคงเหลือ โดยสมาคมมีแนวปฏิบัติดังนี้
1. สมาคมจะติดตามโครงการที่ไม่ได้ทำการตัดบัญชีวัตถุดิบเกิน 4 เดือน โดยขอให้บริษัทตรวจสอบข้อมูลโครงการที่ยังมีสิทธิอยู่ว่ามีการเคลื่อนไหวหรือไม่ และมีการตัดบัญชีวัตถุดิบครั้งสุดท้ายเมื่อไร มีระยะเวลาเกิน 4 เดือนแล้วหรือยัง นับแต่นี้เป็นต้นไป หากโครงการใดที่ไม่มีการเคลื่อนไหว หรือไม่ได้ตัดบัญชีวัตถุดิบเกิน 4 เดือน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) จะออกหนังสือแจ้งเตือนไปยังบริษัทเพื่อขอให้เร่งดำเนินการตัดบัญชีวัตถุดิบ หากท่านไม่สามารถดำเนินการได้ตามกำหนดท่านจะถูกระงับสิทธิการสั่งปล่อยวัตถุดิบของทุกโครงการได้
2. กรณีสิ้นสุดระยะเวลานำเข้าวัตถุดิบแล้ว
2.1 กรณีสิ้นสุดระยะเวลานำเข้าวัตถุดิบแล้วแต่ไม่เกิน 6 เดือน สำนักงานฯ จะมีหนังสือแจ้งเตือนให้บริษัท “ขอให้เร่งดำเนินการขยายระยะเวลานำเข้าวัตถุดิบตามมาตรา 36” เช่นเดียวกัน กรณีที่โครงการที่ท่านใช้สิทธิวัตถุดิบแล้วระยะเวลาสิ้นสุดลงแต่ยังไม่เกิน 6 เดือน ท่านสามารถขอขยายระยะเวลาการใช้สิทธิได้อย่างต่อเนื่อง
2.2 กรณีสิ้นสุดระยะเวลานำเข้าวัตถุดิบแล้วเกิน 6 เดือน แต่ไม่เกิน 2 ปี สำนักงานฯ จะมีหนังสือแจ้งเตือนให้บริษัท “ขอให้เร่งดำเนินการตัดบัญชีวัตถุดิบคงเหลือ” หมายความว่าบริษัทสามารถตัดบัญชีวัตถุดิบให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปีนับจากวันสิ้นสุดสิทธิ ดังนั้น ขอให้บริษัทเร่งดำเนินการเพราะหากเกิน 2 ปีไปแล้ว วัตถุดิบที่มียอดคงเหลือท่านจะมีภาระภาษี ณ วันนำเข้า
3. กรณีสิ้นสุดระยะเวลานำเข้าวัตถุดิบแล้วเกิน 2 ปี
3.1 ณ วันสิ้นสุดสิทธิเกิน 2 ปี สำนักงานฯ จะออกหนังสือแจ้งให้บริษัททราบและตรวจสอบยอดคงเหลือวัตถุดิบ (MML) เรื่อง “แจ้งรายการและปริมาณวัตถุดิบคงเหลือ” และให้บริษัทตรวจสอบและโต้แย้งได้ โดยทำหนังสือโต้แย้งมาที่สมาคม จากนั้นสมาคมทำเรื่องส่งสำนักงานฯ อีกครั้ง ภายใน 30 วัน นับจากวันที่ได้รับหนังสือ
3.2 หลังครบกำหนด 30 วัน สำนักงานฯ จะออกหนังสือแจ้งให้บริษัททราบ เรื่อง “สรุปรายการและปริมาณวัตถุดิบคงเหลือที่ต้องมีภาระภาษีอากรตามสภาพ ณ วันนำเข้า” ถึงปริมาณวัตถุดิบคงเหลือที่สำนักงานฯ จะดำเนินการเพิกถอนรายการวัตถุดิบ (MML)

ทั้งหมดนี้ คือวิธีปฏิบัติเพื่อป้องกันการเกิดกรณีระยะเวลานำเข้าวัตถุดิบสิ้นสุดเกิน 2 ปี และมีวัตถุดิบคงเหลือ แต่ทั้งนี้ ทางบริษัทจะต้องคอยติดตามความเคลื่อนไหวโครงการของบริษัทอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน ซึ่งหากพบประเด็นปัญหาหรือความไม่ชัดเจนของข้อมูล ท่านจะได้ทำการตรวจสอบและแก้ไขได้ทันเวลา เพราะหากปล่อยให้เกินกำหนดการสิ้นสุดสิทธิ จนเกิน 2 ปี บริษัทอาจจะไม่สามารถแก้ไขอะไรได้แล้ว ซึ่งจะส่งผลเสียหายต่อบริษัทอย่างแน่นอน

หากท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ E-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. โทรศัพท์ 0 2666 9449 กด 1

........................................

บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง