ความหมายของคอลัมน์ใน MML

July 20,2022

ความหมายของคอลัมน์ใน MML

Q: MML คอลัมน์ Balance คือ ยอดที่สามารถนำเข้าได้ใช่หรือไม่
    คอลัมน์ APP_QTY หมายถึงอะไร

A:  ความหมายของคอลัมน์ใน MML ที่สอบถาม อธิบายได้ดังนี้

balance คือ ปริมาณคงเหลือในบัญชี เป็นปริมาณที่นำเข้ามาโดยใช้สิทธิยกเว้นภาษี แต่ยังไม่ได้นำหลักฐานส่งออกมาตัดบัญชี หรือปรับยอด เมื่อสิทธิประโยชน์สิ้นสุดลง จะแจ้งกรมศุลกากรเรียกเก็บภาษี ตามจำนวนยอดค้างคงเหลือนี้
app_qty คือ ปริมาณที่สามารถยื่นขออนุมัติสั่งปล่อยได้
ถ้า balance เพิ่มขึ้น -> app_qty จะลดลง
ถ้า balance ลดลง -> app_qty จะเพิ่มขึ้น

สำหรับคอลัมน์อื่นๆ คือ
max_stock คือ ปริมาณสั่งปล่อย/ถือครองสูงสุดที่ได้รับอนุมัติ
imp_qty คือ ปริมาณนำเข้าสะสม
exp_qty คือ ปริมาณส่งออกสะสม
ven_qty คือ ปริมาณสะสมจากการโอนสิทธิตัดบัญชีให้ vendor BOI (นำสิทธิที่ได้รับ ไปตัดบัญชีต่อได้)
loc_qty คือ ปริมาณสะสมจากการโอนสิทธิตัดบัญชีแบบ non-BOI (นำสิทธิที่ได้รับ ไปตัดบัญชีต่อไม่ได้) และผ่านการตรวจสอบเอกสารหลักฐานแล้ว
tmp_qty คือ ปริมาณสะสมจากการโอนสิทธิตัดบัญชีแบบ non-BOI (นำสิทธิที่ได้รับ ไปตัดบัญชีต่อไม่ได้) แต่ไม่ได้ตรวจสอบเอกสารหลักฐาน
adj_qty คือ ปริมาณสะสมจากการปรับยอด balance ด้วยสาเหตุอื่นนอกเหนือจากการตัดบัญชี เช่น ทำลายส่วนสูญเสีย / ชำระภาษี / ส่งคืนวัตถุดิบ เป็นต้น โดยจะมีทั้งค่าบวก (เพิ่มยอด balance) และค่าลบ (ลดยอด balance)

ความสัมพันธ์ของแต่ละคอลัมน์ คือ
app_qty = max_stock – balance
ปริมาณที่สามารถสั่งปล่อยได้ = ปริมาณอนุมัติสูงสุด – ปริมาณค้างคงเหลือในบัญชี
balance = imp_qty + ven_qty + loc_qty + tmp_qty - exp_qty + adj_qty
ปริมาณค้างคงเหลือในบัญชี = ปริมาณสั่งปล่อย + ปริมาณโอนสิทธิ (ven, loc, tmp) - ปริมาณส่งออก + ปริมาณปรับยอด
หมายเหตุ: ปริมาณปรับยอด จะมีทั้งกรณีที่เป็นค่าบวก (เพิ่มยอด balance) และกรณีที่เป็นค่าลบ (ลดยอด balance)
วิธีคำนวณจึงระบุเป็น +

Q:  กรณีเราตัดบัญชีแล้ว ไม่สามารถตัดบัญชีได้ กรุ๊ป บางรายการ ที่อยู่ในสูตร Balance ติดลบ เราจะดำเนินการอย่างไร
อย่างเช่น Model A มี กรุ๊ป 15 กรุ๊ป กรุ๊ปที่ 1-10 ตัดได้ แต่กรุ๊ปที่ 11- 15 Balance เป็น 0.00 ถ้าตัดบัญชีได้จะทำให้ยอด Balance ติดลบ

A:  การตัดบัญชีติดลบ เกิดจากสาเหตุหลายอย่าง เช่น
     1. สูตรการผลิตมีปริมาณการใช้วัตถุดิบสูงเกินความเป็นจริง
     2. ซื้อวัตถุดิบจากภายในประเทศ จาก vendor BOI (และ non-BOI)
     3. นำวัตถุดิบเข้ามาโดยชำระภาษี
     4. นำวัตถุดิบเข้ามาโดยใช้สิทธิตามมาตรการอื่น เช่น FTA
     5. ได้รับโอนสิทธิ (report-v) จากลูกค้าเกินกว่าปริมาณที่จำหน่าย แล้วนำ report-v ที่เกินนั้นมาตัดบัญชี ฯลฯ
     จึงควรต้องตรวจสอบสาเหตุ และแก้ไขให้ถูกต้องตามสาเหตุนั้นๆ
หากการตัดบัญชีติดลบ เกิดจากการซื้อวัตถุดิบในประเทศ จาก vendor non-BOI ให้ยื่นไฟล์ vendor.xlsx เท่ากับจำนวนที่ติดลบ โดยระบุข้อมูล vendor non-BOI และระบุช่อง VEN_TYPE, VEN_PRODUCT_CODE, และ VEN_ENGLISH_DESC เป็นค่าว่าง
.....................................

บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง