วิธีปฏิบัติหลังได้รับบัตรส่งเสริมการลงทุนตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพ

บทความนี้ ขอนำเสนอวิธีปฏิบัติอีกหนึ่งงานที่มีผู้ใช้บริการได้รับการส่งเสริมการลงทุนเพิ่มมากขึ้น นั่นคือ งานด้านบัตรปรับปรุงประสิทธิภาพ มาติดตามรายละเอียดกันว่า หลังจากที่บริษัทได้รับอนุมัติบัตรปรับปรุงประสิทธิภาพจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ แล้ว บริษัทจะต้องมีขั้นตอนการปฏิบัติอย่างไรบ้าง

บัตรส่งเสริมการลงทุนประเภทปรับปรุงประสิทธิภาพ เป็นมาตรการที่ สกท. ออกให้แก่ผู้ประกอบการเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มศักยภาพการลงทุนทั้งในภาคบริการและการผลิต ซึ่งเป็นการอนุมัติบัตรส่งเสริมการลงทุนใหม่เพื่อทดแทนบัตรเดิม ทั้งนี้ เพื่อให้บริษัทได้รับสิทธิและประโยชน์เพิ่มเติมตามบัตรส่งเสริมการลงทุนที่ได้รับ (บริษัทสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามประกาศของสำนักงานตามประกาศที่ 1/2565 เรื่อง มาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพ) โดยในทางปฏิบัติมีการแบ่งการปรับปรุงประสิทธิภาพออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้
1. การปรับปรุงทั้งโครงการ
2. การปรับปรุงบางส่วนของโครงการ
3. ปรับปรุงจากหลายโครงการ

     โดยในบทความนี้ ผู้เขียนจะพูดถึงวิธีปฏิบัติประเภทปรับปรุงทั้งโครงการ ซึ่งจะกล่าวถึงในส่วนงานของสมาคมสโมสรนักลงทุนว่ามีขั้นตอนและวิธีปฏิบัติอย่างไร ขั้นตอนแรก หลังจากที่บริษัทได้รับอนุมัติบัตรส่งเสริมการลงทุนประเภทปรับปรุงประสิทธิภาพจาก สกท. แล้ว สกท. จะส่งข้อมูลแจ้งผลการอนุมัติให้บริษัททราบผ่านทางระบบ e-Mail ที่บริษัทให้ไว้ และส่งบันทึกสั่งการให้สมาคมดำเนินการต่อไป โดยมีขั้นตอนดังนี้
1. สมาคมได้รับบันทึกสั่งการจากฝ่ายบัตร ของ สกท. ให้ดำเนินการตามที่บันทึกสั่งการ
2. สมาคมจะแจ้งให้บริษัททราบ และให้บริษัทดำเนินการ ดังนี้
    2.1 ให้บริษัทติดต่อขอรับบัตรส่งเสริมกับ สกท. (กรณีบริษัทยังไม่ได้ติดต่อขอรับบัตร)
    2.2 ให้บริษัทติดต่อสมาคม เพื่อขอกำหนดรหัสโครงการใหม่ สำหรับบัตรปรับปรุงประสิทธิภาพ โดยสมาคมจะออกรหัสโครงการใหม่ให้เป็นตัวเลขจำนวน 6 หลัก ส่วนหลักที่ 7 หมายถึงมาตราที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนที่บริษัทจะต้องระบุเพิ่มเติม และหลักที่ 8 หมายถึงประเภทบัญชีให้กำหนดเป็นเลข 3 เช่น 12345613
    2.3 เมื่อบริษัทได้รับรหัสโครงการจากสมาคมแล้ว ให้นำเอกสารมายื่นที่สมาคม ประกอบด้วย
          2.3.1 แบบฟอร์มใบลงทะเบียนขอใช้บริการระบบ IC Online
          2.3.2 สำเนาบัตรส่งเสริมการลงทุน ประเภทบัตรปรับปรุงประสิทธิภาพ
          2.3.3 หนังสือแจ้งรหัสโครงการ
          2.3.4 เอกสารการกำหนดระยะเวลานำเข้าครั้งแรก โดยใช้แบบฟอร์ม “กำหนดวันนำเข้าครั้งแรกสำหรับวัตถุดิบและวัสดุจำเป็น” ซึ่งเงื่อนไขการกำหนดระยะเวลาเริ่มต้น สิ้นสุดสิทธิ์ นั้น สกท. กำหนดให้ตามระยะเวลาของโครงการเดิม และสิ้นสุดตามที่ระบุในบัตรส่งเสริมการลงทุน
3. เมื่อสมาคมได้รับเอกสารครบถ้วนแล้ว จะดำเนินการโดยการตั้งบัญชีรายการวัตถุดิบใหม่ภายใต้รหัสโครงการใหม่ โดยการโอนข้อมูล ชื่อหลักวัตถุดิบ ชื่อรอง ปริมาณสต็อกสูงสุดจากโครงการเดิมมาตั้งในบัญชีใหม่ และในกรณีโครงการเดิมมียอดคงเหลือ (Balance) จะยกยอดนั้นไปเป็นค่าเริ่มต้น (Start_Qty) ในโครงการใหม่
4. เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ สมาคมจะรายงานให้ สกท. ทราบ เพื่อทำการยกเลิกบัตรส่งเสริมการลงทุนฉบับเดิมต่อไป
5. บริษัทสามารถใช้สิทธิในการนำเข้าวัตถุดิบได้ภายใต้โครงการใหม่
6. สำหรับสูตรการผลิตที่จะใช้ในการตัดบัญชีวัตถุดิบภายใต้โครงการใหม่นี้ บริษัทสามารถเลือกดำเนินการได้ 2 แบบคือ
    1) ขออนุมัติสูตรการผลิตใหม่ ผ่านระบบฐานข้อมูล RMTS Online ตามขั้นตอนการขออนุมัติสูตรการผลิตตามปกติ
    2) ขอโอนย้ายสูตรการผลิตจากโครงการเดิมไปยังโครงการใหม่ โดยใช้แบบฟอร์มเรื่อง “ขอโอนสูตรการผลิต” แล้วนำมายื่นที่สมาคมเพื่อให้สมาคมดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

ข้อควรปฏิบัติ
1. เมื่อบริษัทยื่นขอรับบัตรส่งเสริมการลงทุน ประเภทปรับปรุงประสิทธิภาพต่อ สกท. แล้ว บริษัทต้องติดตามความคืบหน้าเป็นระยะๆ และเมื่อได้รับแจ้งผลการอนุมัติจาก สกท. แล้ว ต้องรีบไปขอรับบัตรส่งเสริมการลงทุน เพื่อนำมาดำเนินการกับสมาคมต่อไป
    ทั้งนี้ หากสมาคมได้รับบันทึกสั่งการจาก สกท. ก่อน สมาคมจะทำการระงับสิทธิการสั่งปล่อยวัตถุดิบของโครงการเดิม ซึ่งจะมีผลต่อสั่งปล่อยวัตถุดิบของบริษัทได้
2. สกท. มีกำหนดให้บริษัทดำเนินการให้แล้วเสร็จประมาณ 3 เดือน หลังจากนั้นจะทำการยกเลิกบัตรส่งเสริมการลงทุนฉบับเดิม ซึ่งอาจมีผลต่อการดำเนินงานของบริษัทได้ หากยังไม่ได้ทำการขอตั้งบัญชีใหม่
3. ในช่วงระยะเวลาของการตั้งบัญชีใหม่กับสมาคมนั้น บริษัทจะต้องบริหารจัดการเรื่องการนำเข้า-ส่งออกให้ดี เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อการนำเข้าวัตถุดิบ และมีผลกับยอดคงเหลือ (Balance) ของโครงการเดิมก่อนยกมาโครงการใหม่
4. กรณีระยะเวลาของโครงการใหม่ที่ได้รับใกล้สิ้นสุดสิทธิ ให้บริษัทรีบดำเนินการขอขยายระยะเวลาภายใต้รหัสโครงการใหม่ โดยสามารถยื่นคำขอขยายระเวลาล่วงหน้าก่อนสิ้นสุดสิทธิได้ไม่เกิน 3 เดือน และหลังสิ้นสุดสิทธิได้ไม่เกิน 6 เดือน

มาติดตามเรื่องราวใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานของผู้ใช้บริการในบทความต่อไป ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารต่างๆ ได้ที่เว็บไซต์สมาคม www.ic.or.th หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ หน่วยงาน CSU : Customer Support Unit โทรศัพท์ 02 666 9449 กด 1 อีเมล This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
.................................