การขอรับส่งเสริมการลงทุนมาตราการปรับปรุงประสิทธิภาพ กรณีมีหลายบัตรส่งเสริมที่ใช้ร่วมกัน

December 17,2024

การขอรับส่งเสริมการลงทุนมาตราการปรับปรุงประสิทธิภาพ กรณีมีหลายบัตรส่งเสริมที่ใช้ร่วมกัน

Q: บริษัทต้องการลงทุนในมาตราการปรับปรุงประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นโครงการดำเนินการอยู่แล้ว โดยสิทธิประโยชน์ด้านภาษีเงินได้นิติบุคคลสิ้นสุดแล้ว โดยจะลงทุนใน "มาตราการปรับปรุงประสิทธิภาพ ด้านการประหยัดพลังงาน การใช้พลังงานทดแทน หรือลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม"
     ทั้งนี้ บริษัทได้เก็บข้อมูลมาแล้ว 1 ปี เป็นการลงทุนทำระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ (The water cooled system) แต่ทางบริษัทมีหลายโครงการ ใน 1 ระบบที่ลงทุน กล่าวคือ จะลงทุนใน 1 โรงงานใหญ่ 1 ระบบ โดยมีหลายบัตรส่งเสริมการลงทุนอยู่รวมกัน 5 บัตรส่งเสริมฯ ดังน้ัน ในแนวทางนี้ บริษัทสามารถยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนในมาตราการนี้ได้หรือไม่ หรือมีแนวทางการพิจารณาอย่างไร?

A: 1. กรณีที่สอบถาม บริษัทจะลงทุนตามมาตรการปรับปรุงประเภทสิทธิภาพ โดยเป็นการลงทุนครั้งเดียว 1 ระบบ แต่ส่งผลให้เกิดการปรับปรุงประสิทธิภาพพร้อมกัน มากกว่า 1 โครงการ

2. หากทุกโครงการตามข้อ 1 สิ้นสุดสิทธิการยกเว้น/ลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลแล้ว และได้รับอนุมัติเปิดดำเนินการเต็มโครงการแล้ว
   2.1 บริษัทสามารถยื่นคำขอปรับปรุงประสิทธิภาพ เพียง 1 คำขอ โดยรวมของทุกโครงการเข้าด้วยกัน โดยจะได้รับอนุมัติเป็นบัตรปรับปรุงประสิทธิภาพ 1 ฉบับ ซึ่งเป็นการรวมโครงการ และการปรับปรุงประสิทธิภาพไปในคราวเดียวกัน
   2.2 หรือจะยื่นคำขอปรับปรุงประสิทธิภาพ เป็น 5 คำขอ และออกบัตรปรับปรุงประสิทธิภาพ เป็น 5 ฉบับ เหมือนเดิมก็ได้ โดยจะต้องปันส่วนมูลค่าการลงทุนของ 1 ระบบ เป็น 5 ส่วน สอดคล้องกับแต่ละบัตรส่งเสริมการลงทุน เพื่อกำหนดมูลค่าการลงทุน และวงเงินยกเว้น/ลดหย่อนภาษี ของแต่ละโครงการได้อย่างถูกต้อง

3. ดังนั้น จากกรณีที่สอบถาม จะเป็นการลงทุน 1 ระบบ ในครั้งเดียว จึงควรเป็นวิธีตามข้อ 2.1 ซึ่งนอกเหนือจากการได้รับสิทธิจากการลงทุนปรับปรุงประสิทธิภาพแล้ว การรวมโครงการ น่าจะทำให้การบริหารจัดการด้านเครื่องจักร วัตถุดิบ ฯลฯ มีความสะดวกมากขึ้นการแยกเป็นหลายโครงการ
>>>
ข้อมูลเพิ่มเติม : กรณียื่นคำขอตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพ โดยการรวมหลายโครงการเข้าด้วยกัน ดังนี้
1. บัตรส่งเสริมการลงทุนเดิมจะถูกยกเลิกทั้งหมด (ยกเว้นกรณีตามข้อ 6)
2. สิทธิประโยชน์ด้าน non-tax เช่น ช่างฝีมือ ที่ดิน จะได้รับอยู่ตามเดิม
3. สิทธิด้านภาษีเงินได้
    - ยกเว้นภาษีเงินได้ 3 ปี ไม่เกินร้อยละ 50 ของมูลค่าการลงทุนปรับปรุงประสิทธิภาพ จากรายได้ของกิจการที่ดำเนินการอยู่เดิม โดยเริ่มนับตั้งแต่วันถัดจากวันออกบัตรปรับปรุงประสิทธิภาพ
4. สิทธิประโยชน์ด้านเครื่องจักร
    - ยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงฯ
    - ส่วนเครื่องจักรในส่วนของโครงการเดิม ให้ได้ตามสิทธิเดิม เช่น หากโครงการเดิมได้รับสิทธินำเข้าเครื่องจักรตลอดระยะเวลาที่ได้รับส่งเสริม จะยังคงให้ได้รับสิทธิในส่วนนั้นตามที่ได้รับอยู่เดิม
5. สิทธิด้านวัตถุดิบ
    - ได้รับตามสิทธิของโครงการเดิม เช่น หากโครงการเดิมมีทั้งโครงการที่ได้รับสิทธิ ม.36 และโครงการที่ไม่รับสิทธิ ม.36 ก็จะได้รับสิทธิตามที่ได้รับอยู่เดิมเช่นกัน
6. ไม่จำเป็นต้องนำผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของทุกโครงการ มายื่นขอปรับปรุงประสิทธิภาพ ก็ได้ เช่น บัตรที่ 1 ผลิตสินค้า A บัตรที่ 2 ผลิตสินค้า A และ B อาจยื่นคำขอปรับปรุงประสิทธิภาพ เฉพาะในส่วนของผลิตภัณฑ์ A ก็ได้
ผลที่เกิดขึ้นคือ
   - จะเกิดบัตรปรับปรุงประสิทธิภาพ ฉบับใหม่ ผลิตสินค้า A (เป็นการรวม A ของบัตรที่ 1 และบัตรที่ 2)
   - บัตรที่ 1 จะถูกยกเลิก เนื่องจากมีการออกบัตรปรับปรุงประสิทธิภาพ
   - บัตรที่ 2 จะถูกแก้ไขเป็นผลิตสินค้า B เท่านั้น

7. การดำเนินการขั้นตอนต่างๆ เช่น ตอบรับมติ ขอออกบัตรส่งเสริม ขอใช้สิทธิต่างๆ ส่วนใหญ่จะเป็นไปตามขั้นตอนปกติ แต่มีเรื่องที่ต้องระมัดระวัง เช่น
    7.1 วัตถุดิบ
         - ต้องสร้างบัญชีรายการสต็อกวัตถุดิบใหม่ (เนื่องจากส่วนใหญ่จะต้องแก้ไข group no ใหม่ทั้งหมด) และขอโอนย้ายยอดวัตถุดิบคงเหลือ และโอนย้ายสูตรการผลิต ไปยังบัตรปรับปรุงฯ
    7.2 ช่างฝีมือ
         - อาจต้องขอแก้ไข/เปลี่ยนแปลงตำแหน่งที่อาจซ้ำซ้อนกัน
    7.3 เครื่องจักร
        - การจัดการเครื่องจักรที่นำเข้ามาในโครงการเดิม เช่น การขอจำหน่าย ตัดบัญชีเครื่องจักร ฯลฯ ต้องยื่นในโครงการใหม่ โดยถือเป็นรายการนอกบัญชีของบัตรปรับปรุงประสิทธิภาพ เป็นต้น
......................

บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง