ขับเคลื่อนการลงทุนเพื่อสิ่งแวดล้อมด้วยมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

April 20,2022

ขับเคลื่อนการลงทุนเพื่อสิ่งแวดล้อมด้วยมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

การดำเนินธุรกิจและอุตสาหกรรมในปัจจุบัน โดยส่วนใหญ่จะได้รับอิทธิพลจากเทคโนโลยีดิจิทัลที่มีความก้าวหน้าและพัฒนาต่อเนื่องอย่างไม่หยุดนิ่ง แต่ท่ามกลางความก้าวหน้าและเติบโตของเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้นเรื่อยๆ ผู้ประกอบการจำนวนไม่น้อยที่ยังมีความตระหนักและใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ เล็งเห็นความสำคัญด้านการลงทุนที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และการดำเนินธุรกิจควบคู่กับการจัดการสิ่งแวดล้อมและชุมชนให้สามารถอยู่ร่วมกันได้แบบเป็นมิตร ไม่ส่งผลเสียต่อสภาพแวดล้อมบริเวณใกล้เคียง รวมถึงไม่สร้างมลพิษทางอากาศ จึงได้ออกมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยปรับปรุงและเปิดประเภทกิจการใหม่เพื่อช่วยกระตุ้นและสนับสนุนการขับเคลื่อนการลงทุนเพื่อสิ่งแวดล้อม ดังนี้

1. ปรับปรุงเงื่อนไขการใช้สารทำความเย็นลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สำหรับกิจการห้องเย็น หรือ กิจการห้องเย็นและขนส่งห้องเย็น โดยมีเงื่อนไข คือ
    กรณีใช้สารทำความเย็นธรรมชาติ ยกเว้นแอมโมเนีย จะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 3 ปี
    กรณีใช้แอมโมเนีย จะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร
    กรณีใช้สารทำความเย็นที่ไม่ใช่สารทำความเย็นธรรมชาติ ซึ่งต้องเป็นสารที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อย โดยพิจารณาจากตัวชี้วัด เช่น Global warming Potential (GWP) เป็นต้น จะได้สิทธิประโยชน์ยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร
   โดยสารทำความเย็นธรรมชาติ เป็นสารซึ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เช่น ไฮโดรคาร์บอน คาร์บอนไดออกไซต์ เป็นต้น ซึ่งไม่ทำลายชั้นบรรยากาศ ไม่ทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจก รวมทั้งประหยัดพลังงานมากกว่าสารทำความเย็นชนิดสังเคราะห์ที่ใช้กันทั่วไป สำหรับสารทำความเย็นที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อย จะต้องไม่อยู่ในกลุ่ม CFC และ HCFC ส่วนกลุ่ม HFC จะต้องมีค่า GWP ต่ำกว่า 3,000 จึงจะอยู่ในข่ายที่ขอรับการส่งเสริมการลงทุนได้

2. สนับสนุนการใช้เทคโนโลยี CCUS (Carbon Capture, Utilization and Storage) เทคโนโลยี CCUS คือ เทคโนโลยีในการดักจับ การใช้ประโยชน์และกักเก็บคาร์บอนในภาคอุตสาหกรรม โดยการสนับสนุนประกอบด้วย
   2.1 เพิ่มประเภทกิจการโรงแยกก๊าซธรรมชาติ ที่ใช้เทคโนโลยีการดักจับ การใช้ประโยชน์ และ การกักเก็บคาร์บอน
        - กรณีใช้เทคโนโลยี Carbon Capture, Utilization and Storage: CCUS จะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี
        - กรณีทั่วไป จะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 5 ปี
   2.2 ปรับปรุงเงื่อนไขกิจการผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี
        - กรณีใช้เทคโนโลยี Carbon Capture, Utilization and Storage: CCUS จะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี
        - กรณีทั่วไป จะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 5 ปี

การสนับสนุนและส่งเสริมการลงทุนสำหรับมาตรการนี้ แน่นอนว่าจะสามารถช่วยขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศ โดยมีโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (BCG) เป็นกลไกขับเคลื่อนที่สำคัญ เพื่อสร้างความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจการลงทุนควบคู่กับการรักษาสภาพแวดล้อม และระบบนิเวศทางธรรมชาติให้คงอยู่อย่างยั่งยืน ผู้ประกอบการที่สนใจขอรับส่งเสริมการลงทุนตามมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการลงทุน โทรศัพท์ 0 2553 8111 อีเมล This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. หรือ www.boi.go.th

ข้อมูลจาก: https://www.boi.go.th/index.php?page=press_releases_detail&topic_id=129254&language=th&fbclid=IwAR3Hsccs028Ta0hiWMZGkL1BgPFnn-X7v4NaAHvLjftlT6yM3F2ZzWgZLJ8
https://www.facebook.com/boithailandnews 

บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง