จาก Smart Hospital สู่ Healthcare Biotech ทำไมอุตสาหกรรมสุขภาพคือ "Next Big Thing"
- การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอุตสาหกรรม: จากบริการสู่การผลิตนวัตกรรมของไทย
- อะไรคือ “Next Big Thing” ของอุตสาหกรรมสุขภาพไทย ที่มากกว่าแค่ “การรักษา”
จุดเริ่มต้น : จาก Smart Hospital สู่ Healthcare Biotech ในวันที่ “สุขภาพ”คือโจทย์ใหญ่ของโลก
ประเทศไทยไม่ได้เป็นเพียง “จุดหมายปลายทางการรักษา”
แต่กำลังก้าวสู่บทบาท “ต้นทางนวัตกรรมสุขภาพ” อย่างเต็มตัว
Smart Hospital เป็นเหมือนประตูบานแรก ของการเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ของอุตสาหกรรมสุขภาพ ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล (AI, IoT, Big Data) ที่ช่วยให้การดูแลผู้ป่วย วินิจฉัยโรค และข้อมูลให้แม่นยำขึ้น ที่ไม่แค่ดูแลผู้ป่วย แต่ ปลดล็อก “สุขภาพ” ให้กลายเป็นธุรกิจสร้างมูลค่าใหม่
ความเป็นไปได้ของไทย ในการเป็น “Medical Hub” ของภูมิภาค เมื่อทิศทางตลาด Healthcare Biotech ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีแนวโน้มเติบโตด้วยอัตรารวมเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ถึง 12.07% ระหว่างปี 2025–2033
เพราะไทยไม่ได้มีแค่บุคลากรการแพทย์ฝีมือดี แต่ยังมีฐานการผลิตและระบบ Supply Chain ของ Smart Healthcare ที่พัฒนาอย่างครบวงจรและรองรับได้มากกว่าการให้บริการเฉพาะภายในโรงพยาบาล
- เชื่อมโยงการวินิจฉัย (Digital Diagnostics) การใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (เช่น AI, IoT, Wearables) วิเคราะห์สุขภาพแบบ real‑time
- ดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคล (Personalized Care) เช่น การใช้ข้อมูล DNA/โปรตีน
- ป้องกันโรคด้วย Biotech Innovation เพื่อใช้เชิงป้องกันโรค เช่น วัคซีน,
Diagnostic Kits, Gene Therapy
>>Healthcare Biotech : ก้าวสู่นวัตกรรมสุขภาพ
สิ่งที่น่าสนใจก็คือ จากการ “รักษา” ไปสู่การ “ผลิต”ซึ่ง Biotech วันนี้ ไม่ได้จำกัดแค่ “การผลิตยา” อีกต่อไป
แต่กำลังกลายเป็น จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ของอุตสาหกรรมสุขภาพไทย สู่ #ผู้ผลิตนวัตกรรมสุขภาพ” ที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจมหาศาลและมีบทบาทสำคัญในภูมิภาค
- การผลิตวัคซีนและยารักษาโรค – จากการพัฒนา Antibody และเทคโนโลยี DNA
เพื่อตรวจเชื้อและดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคล จนถึงการคิดค้นวัคซีนสำหรับโรคอุบัติใหม่ที่รุนแรงและซับซ้อน
- การผลิต Biopharmaceuticals (API) สารออกฤทธิ์สำคัญต่อการคิดค้นยาใหม่ ไทยเองมีผู้ประกอบการอย่าง BioNet-Asia (วัคซีนไข้หวัดใหญ่) และ Siam Bioscience (วัคซีนโมเดิร์นาในไทย) ที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ
- การพัฒนา Diagnostic Kits การใช้เทคโนโลยีชีวภาพในการตรวจเชื้อ, วิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพ เช่น Baiya Phytopharm สตาร์ทอัพไทยที่คิดค้นชุดตรวจโควิด-19 และวัคซีนพืช ที่ได้รับการสนับสนุนจากบีโอไอ ในฐานะกิจการ Biotech ที่ขับเคลื่อนด้วยงานวิจัย
- การผลิต Medical Devices จาก implant อัจฉริยะถึงเครื่องตรวจวินิจฉัยขั้นสูง โครงการ Medical Innovation District ของบีโอไอ สนับสนุนการพัฒนาอุปกรณ์ Bio Based เช่น implant หรือ scanner มาตรการส่งเสริมการลงทุนในเขตพื้นที่ย่านนวัตกรรมการแพทย์
- Clinical Research Organizations (CROs) ที่พัฒนาและทดสอบยา-วัคซีน โดยใช้ Biotech เป็นหัวใจ เช่น INC Research Thailand และ Parexel ที่ตั้งสำนักงานในไทยและร่วมมือกับ รพ.ชั้นนำ นี่คือ การยกระดับไทยให้ก้าวสู่ “ผู้ผลิตนวัตกรรมสุขภาพ ที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจมหาศาลและมีบทบาทสำคัญในภูมิภาค
ทำไมอุตสาหกรรมสุขภาพคือ Next Big Thing ?
- Healthy Aging – ผู้คนมีอายุยืนยาวขึ้น และต้องการใช้ชีวิตในวัยสูงอายุอย่างมีคุณภาพ
- Personalized Healthcare – วิเคราะห์ข้อมูลชีวภาพเฉพาะบุคคล เพื่อตอบโจทย์การรักษาที่ตรงจุดในการผลิตยาเฉพาะบุคคล ที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างมาก
- ไทยคือจุดหมายปลายทางด้านสุขภาพ – การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพไทยครองอันดับต้นของโลก Medical Tourism ของไทยคาดสูงถึง 760,000 ล้านบาทในปี 2570
#มาตรการส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอ –
บีโอไอพร้อมส่งเสริมการลงทุนและสร้างการเติบโตให้ธุรกิจ Healthcare BioTech สนับสนุนให้เกิดการพัฒนาและต่อยอดนวัตกรรมทางเทคโนโลยีชีวภาพสำหรับการแพทย์จะต่อยอดเศรษฐกิจและยกระดับขีดความสามารถของไทยในเวทีโลก
โดยให้การส่งเสริมการลงทุนในกิจการพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ การผลิตสารเวชภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยีชีวภาพ ชุดตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์ การผลิตยา รวมไปถึงการวิจัยทางคลินิก (Clinical Research) เป็นต้น โดยจะให้สิทธิประโยชน์ ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสูงสุด 13 ปี แตกต่างกันตามแต่ละประเภทกิจการ การยกเว้นอากรนำเข้าเครื่องจักร และวัตถุดิบในการผลิตเพื่อส่งออก รวมถึงสิทธิอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ภาษี
ประเทศไทยกำลังก้าวสู่บทบทใหม่ ในฐานะต้นทางนวัตกรรมสุขภาพระดับโลก พร้อมรับเทรนด์โลก