มาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อยกระดับไปสู่อุตสาหกรรม 4.0
บริบทของโลกอยู่ท่ามกลางความพลิกผันอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากปัจจัยด้านการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทอดระยะเวลายาวนาน ขณะเดียวกันภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการก็ต้องเร่งปรับตัวรับกระแส Disruption โดยปรับโหมดเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0 (Industry 4.0) ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพของเทคโนโลยีเพื่อให้อุตสาหกรรมการผลิตและการบริการทำงานได้รวดเร็ว ยืดหยุ่น และสามารถผลิตสินค้าหรือให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงด้านการบริการมีการนำนวัตกรรมต่างๆ เข้ามาใช้ เพื่อตอบรับผู้บริโภคในยุคดิจิทัล
คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบอร์ดบีโอไอ ได้เล็งเห็นความจำเป็นที่จะต้องเร่งยกระดับอุตสาหกรรมไทยเข้าสู่ Industry 4.0 ตามยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมไทย 4.0 ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 - 2579) โดยได้ออก มาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อการยกระดับไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 ที่สนับสนุนผู้ประกอบการลงทุนปรับเปลี่ยนเครื่องจักรเพื่อยกระดับสู่อุตสาหกรรม 4.0 ตามเกณฑ์ที่กำหนดในด้านต่างๆ เช่น ระบบอัตโนมัติและการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ (Automation and Network Technology) การวิเคราะห์ข้อมูลและการปฏิบัติการที่ชาญฉลาด (Smart Operation) หรือการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้บริหารจัดการในกระบวนการผลิตและการบริหารองค์กร (Digital Technology in Production & Enterprise Processes) เป็นต้น ซึ่งมาตรการนี้จะเป็นการสนับสนุนให้มีการลงทุนเพื่อยกระดับไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 ทั้งกิจการที่ดำเนินการอยู่เดิม และกิจการที่จะลงทุนใหม่ โดยให้ได้รับสิทธิและประโยชน์ ดังนี้
1) กรณีสนับสนุนกิจการที่ดำเนินการอยู่เดิม ไม่ว่าเคยได้รับส่งเสริมจากบีโอไอหรือไม่ โดยได้เพิ่มเป็นมาตรการย่อยด้านการยกระดับไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 ภายใต้มาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพ จะได้รับสิทธิและประโยชน์ อาทิ ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นเวลา 3 ปี สัดส่วนร้อยละ 100 ของเงินลงทุนในการปรับปรุงเพื่อยกระดับไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 และยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร
2) กรณีสนับสนุนกิจการลงทุนใหม่ โดยเป็นมาตรการที่ให้ได้รับสิทธิและประโยชน์เพิ่มเติมสำหรับกิจการในกลุ่ม B (กลุ่มกิจการที่ไม่ได้รับสิทธิและประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล) ซึ่งจะได้รับสิทธิและประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 3 ปี เป็นสัดส่วนร้อยละ 100 ของเงินลงทุนโดยไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียนในการยกระดับไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 รวมถึงสิทธิและประโยชน์อื่นๆ เช่น การยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร และการยกเว้นอากรขาเข้าสำหรับวัตถุดิบที่นำมาผลิตเพื่อการส่งออก เป็นต้น ตามประกาศ กกท. ที่ 2/2557
มาตรการนี้ บีโอไอให้การส่งเสริมครอบคลุมทั้งภาคการผลิตและภาคบริการ โดยต้องมีเงินลงทุนมากกว่า 1,000,000 บาท (ไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน) หากเป็น SMEs จะได้รับการผ่อนปรนการลงทุนเป็นไม่น้อยกว่า 500,000 บาท (ไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน) และต้องเสนอแผนการลงทุนที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยจะพิจารณาอ้างอิงจาก ดัชนีชี้วัดความพร้อมของอุตสาหกรรมไทย (Thailand i4.0 Index) ซึ่งเป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถประเมินความพร้อมสู่อุตสาหกรรม 4.0 ได้ รวมถึง ต้องยื่นขอรับการส่งเสริมภายในวันทำการสุดท้ายของปี 2565 และต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 3 ปี นับจากวันที่ออกบัตรส่งเสริม
ทั้งนี้ ประเทศไทยได้วางเป้าหมายการขับเคลื่อนให้อุตสาหกรรมและบริการปรับเปลี่ยนไปสู่ Industry 4.0 เช่น ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ได้ตั้งเป้าหมายการยกระดับโรงงานที่อยู่ในพื้นที่ประมาณ 10,000 แห่งให้สามารถยกระดับเป็น Industry 4.0 ภายในปี 2567 โดยมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อการยกระดับไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 นี้จะเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญที่ช่วยผลักดันให้อุตสาหกรรมและบริการของไทยก้าวเข้าสู่ Industry 4.0 เพิ่มมากขึ้น
(หมายเหตุ: รายละเอียดเพิ่มเติมโปรดดูประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนและคำชี้แจงที่เกี่ยวข้อง ได้ที่ www.boi.go.th)